ทัวร์ทาจิกิสถาน เอเชียกลาง เยือนทะเลสาบสีฟ้าคราม-สีมรกต “7 Lakes” แห่งเทือกเขาฟานน์
ทัวร์
เอเชียกลาง
ระยะเวลา
9 วัน 8 คืน
สายการบิน
วันเดินทาง
2-10 มิถุนายน 2563
Hilight

        ทัวร์ทาจิกิสถาน เที่ยวทาจิกิสาน ทะเลสาบ Seven Lakes ทะเลสาบทั้งเจ็ด หรือที่เรียกกันว่า 7 Lakes of Fann Mountains เส้นทางนี้ควรค่าแก่การไปเยือน เพราะเป็นเส้นทางธรรมชาติที่มีความดิบและน้อยคนนักที่จะมีโอกาสไปสัมผัสที่นั่น  ภาพน้ำทะเลสาบสีฟ้าครามอมเขียวมรกตนอนนิ่งอยู่ท่ามกลางภูเขาสูงสีน้ำตาลตัดรับกับท้องฟ้าสีสันสดใส ที่สะกดให้ท่านราวกับตกอยู่ในภวังค์แห่งความงดงามและน่าหลงใหลของทะเลสาบทั้งเจ็ด นอกจากทะเลสาบทั้งเจ็ดแล้ว ยังมีทะเลสาบที่ตั้งชื่อตาม Alexander The Great คือ ทะเลสาบอิสคานเดอร์คูล (Iskanderkul lake) ที่มีชื่อเสียงอีกหนึ่งแห่งของทาจิกิสถาน พร้อมกันนี้เราอาสาพาท่านเยือนส่วนหนึ่งของ เส้นทางสายไหม (Silk Road) เส้นทางการค้าทางบกในอดีตที่พาดผ่านแถบเอเชียกลาง ยิ่งไปกว่านั้น นำท่านโลดแล่นสัมผัสวิวทิวทัศน์ธรรมชาติอันงดงามตระการตาบน เส้นทางหลวงปาร์มี ไฮเวย์ (Pamir Highway) เป็นถนนทางหลวงที่สวยที่สุดในเอเชียกลาง ลัดเลาะแม่น้ำปัญจ์ที่เป็นปราการธรรมชาติแบ่งขอบแดนอัฟกานิสถานและทาจิกิสถานออกจากกัน  

แผนการท่องเที่ยว
  • Day 1
    กรุงเทพฯ - ทาชเค้นท์ - คูจานด์ (D)
    • 05.00 น. พร้อมกันที่สนามบินสุวรรณภูมิ เคาน์เตอร์สายการบินอุซเบกิสถาน ประตูทางเข้า 10 แถว W โดยมีเจ้าหน้าที่บริษัทคอยให้การต้อนรับและอำนวยความสะดวกในการเช็คอินด้านสัมภาระและเอกสารให้กับท่าน
      08.10 น. เหินฟ้าสู่ ทาชเค้นท์ โดยสายการบิน Uzbekistan Airways เที่ยวบิน HY532 (0810-1300)
      (ใช้เวลาบิน 6 ชั่วโมง 50 นาที) (บริการอาหารบนเครื่อง)
      13.00 น. เดินทางถึงสนามบินนานาชาติอิสลาม คาริมอฟ ทาชเค้นท์ หลังผ่านพิธีการตรวจคนเข้าเมือง พร้อมรับกระเป๋าสัมภาระเรียบร้อยแล้ว พบกับไกด์ท้องถิ่นรอต้อนรับ
      (กรุณาปรับนาฬิกาของท่านตามเวลาของท้องถิ่น เวลาที่อุซเบกิสถาน ช้ากว่า เวลาที่ประเทศไทย 2 ชั่วโมง)
      นำท่านเดินทางโดยรถพาหนะลงไปทางทิศใต้ของเมืองทาชเค้นท์สู่เขตพรมแดนของอุซเบกิสถาน-ทาจิกิสถาน ณ ด่านออยเบค (มีระยะทางราว 135 กิโลเมตร  ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2 ชั่วโมง) นำท่านผ่านพิธีการตรวจคนเข้าเมืองฝั่งของทาจิกิสถานเรียบร้อยแล้ว เปลี่ยนรถพาหนะเป็นของฝั่งทาจิกิสถาน แล้วเดินทางต่อไปยัง เมืองคูจานด์ (Khujand) ซึ่งตั้งอยู่ทางภาคเหนือของประเทศ ตั้งอยู่ในเขตจังหวัดซูกด์ (Sughd) (มีระยะทางราว 45 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1.5 ชั่วโมง)
      เมืองคูจานด์ เป็นเมืองใหญ่อันดับสองรองจากเมืองหลวงดูชานเบ ตั้งอยู่บริเวณแม่น้ำซีดาร์ยา เป็นเมืองเก่าแก่ที่ก่อตั้งขึ้นมาโดยอเล็กซานเดอร์มหาราช เพื่อใช้เป็นที่ตั้งถิ่นฐานของชาวกรีกกับชนเผ่าไซเธียน ราวเมื่อ 329 ปีก่อนคริสตกาล เมืองคูจานด์ถือเป็นเมืองสำคัญแห่งหนึ่งบนเส้นทางสายไหม  ราวช่วงคริสต์ศตวรรษที่ 8 ถูกครอบครองโดยชาวอาหรับ หลังจากนั้นต่อมาถูกปกครองโดยเผ่ามองโกลกว่า 5 ศตวรรษ จนกระทั่งมาถึงยุคของกษัตริย์ติมูร์ (Timur or Tamerlane) ผู้รวบรวมดินแดนแถบเอเชียกลาง เมื่อปีค.ศ.1866 เอเชียกลางถูกรัสเซียเข้ายึดครองและปกครองเรื่อยมา และได้มีการเปลี่ยนชื่อเมืองนี้เป็น “เลนินอบาด” ตั้งแต่ปีค.ศ. 1936-1991 หลังจากสหภาพโซเวียตล่มสลาย ก็กลับมาใช้ชื่อเมืองคูจานด์ดังเดิมในปี ค.ศ.1992
      ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ
      เข้าสู่โรงแรมที่พัก PARLIAMENT PALACE HOTEL 4*, KHUJAND หรือเทียบเท่า
  • Day 2
    คูจานด์ - อิสตาราชาน - ดูชานเบ (B/L/D)
    • เช้า    รับประทานอาหารเช้าในโรงแรม 
      นำท่านชมสถานที่ท่องเที่ยวหลักของเมืองคูจานด์ คือ ป้อมปราการคูจานด์ (Khujand Fortress) ตามหลักฐานทางโบราณคดีถูกค้นพบว่าป้อมปราการแห่งนี้เริ่มสร้างขึ้นครั้งแรกในช่วง 4-5 ศตวรรษก่อนคริสตกาล ป้อมปราการและเมืองคูจานด์ก็ถูกพัฒนาเจริญมากขึ้นและขยายใหญ่ขึ้นเรื่อยๆตามกาลเวลา โดยมีตัวปราสาทเป็นดั่งศูนย์กลางของเมือง อย่างไรก็ดีป้อมปราการแห่งนี้ก็ถูกทำลายลงจากพวกที่เข้ามารุกรานครั้งแล้วครั้งเล่า แต่ก็ได้บูรณะขึ้นมาใหม่ทุกครั้งไป ที่นี่เจงกิสข่านก็ยกทัพมาตีเช่นกันในช่วงปี ค.ศ.1219-1220 ในอดีตป้อมปราการนี้มีกำแพงล้อมรอบเมืองครอบคลุมพื้นที่กว่า 125 ไร่ พร้อมทั้งมีคูน้ำรอบเมืองอีกด้วย ป้อมปราการคูจานด์ได้ชื่อว่าเป็นป้อมปราการที่แข็งแกร่งตีได้ยากแห่งหนึ่งในแถบเอเชียกลาง ปัจจุบันที่ท่านจะได้เห็นคือ เกิดจากการบูรณะและสร้างใหม่ แต่ตัวกำแพงเมืองบางส่วนยังเป็นของเดิม  
      จากนั้นนำท่านชม พิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์แห่งซูกด์ (Hictorical Museum of Sughd province) ซึ่งตั้งอยู่ในบริเวณป้อมปราการ เพื่อให้ท่านได้เรียนรู้ถึงประวัติศาสตร์ของคูจานด์อย่างเข้าใจลึกซึ้ง พิพิธภัณฑ์นี้ก็ได้รวบรวมและจัดแสดงโบราณวัตถุต่างๆที่เก่าแก่และมีคุณค่าบ่งบอกเรื่องราวในอดีตในแถบเอเชียกลางได้เป็นอย่างดี ไม่ว่าจะเป็นเครื่องแต่งกายและเครื่องประดับตามแบบประเพณี เป็นต้น และที่นี่ยังมีไฮไลท์สำคัญที่ไม่ควรพลาดชม คือ ภาพโมเสกหินอ่อน ที่เก่าแก่ตั้งแต่ยุคสมัยกษัตริย์อเล็กซานเดอร์มหาราช  
      นำท่านชม ตลาดปันชานเบ บาซาร์ (Panchshanbe Bazaar) ซึ่งเป็นตลาดพื้นเมืองขนาดใหญ่ที่มีสีสันและคึกคัก มากที่สุดในเมืองคูจานด์ ทำเลที่ตั้งอยู่ใจกลางเมืองและโดดเด่นไปด้วยสถาปัตยกรรมตัวอาคารที่มีสีสวยสดสะดุดตาทั้งภายในมีเสาอาคารสไตล์นีโอ-คลาสสิกตั้งเรียงเป็นแถวยาวรับน้ำหนักโค้งหลังคาอย่างสวยงาม ซึ่งสร้างเสร็จในปีค.ศ. 1964 คำว่า ปันชานเบ (Panshanbe) ภาษาทาจิก แปลว่า วันพฤหัสบดี ดังนั้นตลาดนี้จะคึกคักมากเป็นพิเศษในวันพฤหัสบดี และได้ชื่อว่าเป็นตลาดพื้นเมืองที่เก่าแก่ที่สุดแห่งหนึ่งของทาจิกิสถาน เพราะที่นี่มีสินค้าหลากหลายชนิดให้เลือกซื้ออย่างเพลิดเพลิน
      เมื่อได้เวลาพอสมควร เดินทางต่อสู่  เมืองอิสตาราพชาน (Istaravshan) (มีระยะทางราว 80 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางราว 1.5 ชั่วโมง) ตั้งอยู่บริเวณเนินเทือกเขาเตอร์กิสถาน เป็นเมืองโบราณที่เก่าแก่กว่า 2,500 ปี อดีตเมืองแห่งนี้เคยเป็นที่พักพวกกองคาราวานการค้าบนเส้นทางสายไหม จึงเป็นศูนย์รวมของศิลปิน ช่างฝีมือ และเป็นที่อยู่อาศัยของชนชั้นสูง ทำให้เมืองมีการสร้างอาคารสลับซับซ้อนและแกะสลักด้วยไม้อย่างสวยงาม 
      นำท่านชม ป้อมปราการมัคเทปเป (Mug Teppe Fortress) สร้างขึ้นครั้งแรกโดยกษัตริย์ชาวเปอร์เซียที่มีสมญานามว่า Cyrus the Great เป็นปฐมกษัตริย์ของราชวงศ์อะเคเมนิด ปัจจุบันเหลือเพียงซากกำแพงและป้อมปราการบางส่วน เมื่อปีค.ศ. 2002 ได้มีการบูรณะสร้างประตูเข้าป้อมขึ้นมาใหม่ เนื่องในโอกาสเฉลิมฉลองการครบรอบ 2,500 ปีแห่งการสร้างเมืองอิสตาราพชาน ซึ่งในบริเวณนี้ท่านสามารถชมวิวทิวทัศน์ของเมืองและวิวเทือกเขาที่ทอดตัวเป็นแนวยาวจากด้านบนได้อย่างสวยงาม  
      กลางวัน      รับประทานอาหารกลางวัน
      บ่าย   นำท่านชม มาดราซ่าสุลต่านอับดุลลาทีฟ (Medressa of Abdullatif Sultan) เป็นโรงเรียนสอนศาสนาที่เก่าแก่ ที่สะท้อนให้เห็นถึงความเกรียงไกรของอาณาจักรแห่งติมูร์ที่แผ่ขยายมาไกลถึงเมืองอิสตาราพชาน เพราะมาดราซ่าแห่งนี้ใช้รูปแบบสถาปัตยกรรมสไตล์มูติริดที่ท่านสามารถพบเห็นได้ง่ายเฉพาะในอุซเบกิสถานเท่านั้น และที่สำคัญคือโรงเรียนสอนศาสนายังคงใช้งานอยู่จริง และยังคงรักษาสภาพความสมบูรณ์ไว้ค่อนข้างดี ไม่ว่าจะเป็นลวดลายกระเบื้องที่บริเวณประตู  แท่นขานละหลาดบุเงินดั้งเดิม และยอดโดมสีฟ้าอันใหญ่โต เป็นต้น 
      เดินทางสู่ ดูชานเบ (Dushanbe) (มีระยะทางราว 230 กิโลเมตร ใช้เวลาราว 5 ชั่วโมง)
      ระหว่างทาง ท่านสามารถชมทิวทัศน์ของเทือกเขาฟานน์ตลอดสองข้างทาง รถจะแล่นผ่านเข้าสู่ อุโมงค์แอนซอบ (Anzob Tunnel) ณ ความสูง 2,720 เมตรเหนือระดับน้ำทะเล อุโมงค์แห่งนี้เป็นอุโมงค์ยาว 5,040 เมตรและเปิดใช้งานครั้งแรกในปีค.ศ. 2006 ได้ชื่อเรียกว่า อุโมงค์แห่งความกลัว (Tunnel of Fear) เพราะขับรถเข้าไปแล้วจะมีเพียงแสงไฟจากหน้ารถนำทางเท่านั้นและถนนเต็มไปด้วยหลุม แต่ปัจจุบันได้รับการปรับปรุงแก้ไขใหม่แล้ว อุโมงค์นี้ช่วยลดการเดินทางให้สั้นลงเดิมกว่า 4 ชั่วโมง และเป็นอุโมงค์เชื่อมต่อสำหรับการเดินทางระหว่างคูจานด์กับดูชานเบให้สะดวกยิ่งขึ้นบนเส้นทางหลวง M34 (Uzbekistan-Takistan Highway) รถจะแล่นลัดเลาะผ่านบริเวณหุบโกรกธารวาร์ซอบและแม่น้ำวาร์ซอบ (Varzob gorge & Varzob river) กระทั่งเดินทางถึงเมืองดูชานเบ
      ดูชานเบ(Dushanbe) เป็นเมืองหลวงและเมืองที่ใหญ่ที่สุดในประเทศทาจิกิสถาน คำว่า “ดูชานเบ” ในภาษาทาจิก มีความหมายว่า "วันจันทร์"   ซึ่งสันนิษฐานว่าเป็นชื่อที่เป็นสถานที่ตั้งของหมู่บ้านที่มีชื่อเสียงเรื่องตลาดวันจันทร์ 
      ค่ำ   รับประทานอาหารค่ำ 
      เข้าสู่โรงแรมที่พัก HILTON HOTEL 5*, DUSHANBE หรือเทียบเท่า
  • Day 3
    ดูชานเบ - ทาวิลดารา - คาลัย ฮัม (B/L/D)
    • เช้า รับประทานอาหารเช้าในโรงแรม 
      ออกเดินทางสู่ เมืองคาลัย ฮัม (Kalai Khumb) (มีระยะทางราว 280 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางราว 7-8 ชั่วโมง) วันนี้คณะเดินทางโดยใช้เส้นทางหลวง M41 หรือที่รู้จักกันในชื่อว่า ปาร์มีไฮเวย์ (Pamir Highway) รถจะเคลื่อนไปทางทิศตะวันออกผ่านเมือง Vahdat เมือง Faizobod จนถึงเมือง Roghun มีระยะทางรวม 76 กิโลเมตร จากนั้นรถแล่นต่อไปเมือง Darband อีก 54 กิโลเมตร แล้วแล่นมุ่งลงทางทิศใต้เข้าสู่ เขตปกครองตนเองกอร์โน-บาดัคชาน (Gorno-Badakhshan Autonomous Region) เป็นเขตที่มีเทือกเขาปาร์มีพาดผ่านและมีพื้นที่ภูเขาสูงชันตั้งอยู่ แล้วเดินทางต่อไปจนถึงเขตทาวิลดาราประมาณ 50 กิโลเมตร (ระหว่างการเดินทางในช่วงเช้า ระยะทางรวมทั้งสิ้น 180 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางรวม 4-5 ชั่วโมง รถจะหยุดแวะเก็บภาพวิวทิวทัศน์ตลอดสองข้างทางเป็นระยะๆ)
      กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน
      บ่าย นำท่านชม เมืองทาวิลดารา (Tavildara) เป็นเมืองเอกของเขตทาวิลดารา เมืองนี้เป็นเมืองที่ตั้งอยู่ในเขตพื้นที่สูงที่สุดในภาคตะวันออกกลางของทาจิกิสถาน ถูกล้อมรอบด้วยหุบเขาราชท์ (Rasht Valley) ทางตอนเหนือ และภูเขา ดาร์วาซ (Darvaz Mountain) ทางตอนใต้ และมียอดเขาปาร์มี (Pamir Peak) ที่สูงที่สุดทางด้านตะวันออก ที่นี่ได้รับการยืนยันจากนักวิทยาศาสตร์ที่มีชื่อเสียงหลายท่านว่าเป็นเมืองที่ชาวเผ่าทาจิกดั้งเดิมได้อาศัยอยู่ในแถบนี้มาก่อน คนท้องถิ่นที่นี่สามารถพูดภาษาถิ่นได้ถึง 7 ภาษา เมืองนี้มีแม่น้ำสายสำคัญของประเทศไหลผ่านซึ่งน้ำเกิดจากการละลายของกลาเซียร์บนภูเขา มีชื่อว่า แม่น้ำโอบิ คินกอฟ (Obi Khingob) สายนี้ยาว 130 กิโลเมตร เป็นแม่น้ำสาขาของแม่น้ำวาคซ์ (Vakhsh River) แล้วไหลต่อไปบรรจบกันเป็นแม่น้ำอามู ดาร์ยา (Amu Darya River) ซึ่งหล่อเลี้ยงชีวิตชาวอุซเบกทั้งประเทศ อิสระให้ท่านได้ชมวิวทิวทัศน์และเก็บภาพบรรยากาศ โดยรอบ 
      เดินทางกันต่อ ผ่านช่องเขา Khaburabad Pass สูง 3,528 เมตรเหนือระดับน้ำทะเล ซึ่งเป็นบริเวณหุบเขาสูงชันที่มีทิวทัศน์ธรรมชาติอันงดงามของหุบเขาโอบล้อม  (การเดินทางจากเมืองทาวิลดาราถึงเมืองคาลัย ฮัม มีระยะทางราว 98 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางราว 2.5-3 ชั่วโมง)
      ครั้นเดินทางถึงเมืองคาลัย ฮัม นำท่านเข้าสู่โรงแรมที่พักเพื่อพักผ่อนหรือเดินเล่นในเมืองอย่างอิสระตามอัธยาศัย 
      คาลัย ฮัม (Kalai-Khumb) เป็นเมืองเล็กๆ ที่ตั้งอยู่ในเขตกอร์โน-บาดัคชานที่ผู้คนนิยมแวะพักค้างแรมที่นี่ และเป็นอีกหนึ่งเมืองบนเส้นทางหลวงปามีร์ไฮเวย์ ซึ่งมีพรมแดนติดกับประเทศอัฟกานิสถาน 
      ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ 
      เข้าสู่โรงแรมที่พัก KHARON PALACE 4*, KALAI KHUMB หรือเทียบเท่า
  • Day 4
    คาลัย ฮัม - คูลอบ - ดูชานเบ (B/L/D)
    • เช้า รับประทานอาหารเช้าในโรงแรม
      ออกเดินทางไปยัง เมืองคูลอบ (Kulob) (มีระยะทางราว 170 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางราว 4 ชั่วโมง) 
      ระหว่างทาง นำท่านแวะชม สวนสันทนาการสาธารณะชอร์ชามัน (Chorchaman Recreation Center) ซึ่งเป็นแหล่งสันทนาการพักผ่อนของชาวทาจิกที่อาศัยอยู่ในเขตกอร์โน-บาดัคชาน ซึ่งมีการจัดสวนดอกไม้และมุมถ่ายภาพมุมนั่งเล่นพักผ่อนพร้อมเพลิดเพลินกับสายน้ำไหลซู่ซ่าสร้างบรรยากาศแห่งความสดชื่นกินใจ 
      เมื่อได้เวลาพอสมควร เดินทางต่อ ท่านจะสังเกตได้ว่าตลอดเส้นทางที่นั่งรถมาตามเส้นทางหลวงปามีร์นั้น แทบทุกเมืองจะตั้งอยู่ในแนวของทางหลวงปามีร์ที่ตัดถนนลัดเลาะคู่ขนานไปตามแนวตะเข็บชายแดนระหว่างประเทศทาจิกิสถานและอัฟกานิสถาน และมีแนวปราการธรรมชาติอย่างแม่น้ำปัญจ์สายหลัก ซึ่งเป็นต้นน้ำของแม่น้ำอามูดาร์ยา มีความยาว 1,125 กิโลเมตร รถแล่นผ่านเส้นทางเลาะเลียบตลอดแนวฝั่งแม่น้ำปัญจ์และหุบเขาที่มีทิวทัศน์ธรรมชาติที่สวยงาม ผ่านหมู่บ้านท้องถิ่นเล็กๆของชาวทาจิกเป็นระยะๆ จนถึงเมืองคูลอบ
      กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน 
      หลังอาหาร นำท่านชม สุสานอาลี ฮามาโดนี (Mir Sayyid Ali Hamadoni Mausoleum) เป็นสถานที่สำคัญของชาวอาหรับและเปอร์เซีย เพราะที่นี่คือสุสานและอุทยานของท่านอาลี ฮามาโดนี ซึ่งเป็นกวีเอก นักวิทยาศาสตร์และปรัชญาคนสำคัญ ท่านเกิดที่อิหร่านในตระกูลผู้มั่งมีและมีการศึกษาสูงในช่วงคริสต์ศตวรรษที่ 14 และเป็นคนฉลาดรอบรู้ทางปรัชญา ท่านเป็นผู้นำศาสนาอิสลามเข้าไปเผยแพร่ในแถบแคชเมียร์และมีสาวกติดตามท่านราว 500-700 คน 
      ปัจจุบันที่แคว้นแคชเมียร์ยังมีมัสยิดชื่อชาห์ฮามาดา (Shah Hamadham Mosque) ที่สร้างขึ้นเพื่อรำลึกถึงคุณงามความดีของท่าน สำหรับสุสานของท่านที่นี่มีขนาดเล็กแต่กลับมีสถาปัตยกรรมการก่อสร้างที่งดงาม อาทิ ประตูทางเข้าที่มีลวดลายวิจิตรและงานแกะสลักเสาไม้ละเอียดลออ  
      ระหว่างทาง แวะถ่ายภาพด้านนอก ปราสาทฮุลบุค (Hulbuk Palace) คือ 1 ใน 4 เมืองโบราณที่ใหญ่ที่สุดของเอเชียกลาง ถูกสร้างขึ้นในช่วงยุคศตวรรษที่ 9-11 เป็นศูนย์กลางการปกครองของ Shah Khatlon ปราสาทแห่งนี้มีทำเลที่ตั้ง ดีเพราะมีเนินเขาเกลือขนาดใหญ่ ซึ่งเป็น1 ใน 3 ชนิดสินค้าที่สร้างมูลค่ามากในยุคนั้น ได้แก่ เกลือ ทองคำ และม้า ปราสาทหลังนี้ถูกพวกมองโกลเข้ามาทำลายลง กระทั่งในปีค.ศ. 1951 ได้ถูกขุดค้นพบและปัจจุบันได้รับการบูรณะขึ้นมาใหม่อีกครั้ง
      เดินทางมุ่งหน้าสู่ ดูชานเบ เมืองหลวงของประเทศทาจิกิสถาน ส่วนคำว่า ทาจิกิสถาน หมายถึง "ดินแดนแห่งชาวทาจิก" (Tajiks) (มีระยะทางราว 200 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางราว 4 ชั่วโมง)
      ระหว่างทาง แวะชม อ่างเก็บน้ำนอรัก (Norak Water Reservoir) ที่สร้างขึ้นเพื่อกักเก็บน้ำจากแม่น้ำ Vakhsh River or Surkhob River อ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่แห่งนี้ยาวกว่า 70 กิโลเมตรและมีพื้นผิวน้ำมากกว่า 98 ตารางกิโลเมตร ปัจจุบันเป็นแหล่งน้ำสำคัญเพื่อผลิตกระแสไฟฟ้าจากพลังน้ำ อีกทั้งเป็นแหล่งเพาะพันธุ์ปลาและเป็นสถานที่ตากอากาศในช่วงหน้าร้อนของชาวทาจิก 
      ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ
      เข้าสู่โรงแรมที่พัก HILTON HOTEL 5*, DUSHANBE หรือเทียบเท่า
  • Day 5
    ดูชานเบ (B/L/D)
    • เช้า รับประทานอาหารเช้าในโรงแรม
      นำท่านชม อนุสาวรีย์อิสมาอิล โซมานี (Ismail Somani) คืออนุสรณ์สถานของผู้กอบกู้เอกราชให้แก่ประเทศทาจิกิสถาน และสัญลักษณ์ของการตั้งเมืองนี้ 
      ต่อมานำท่านชม สวนสาธารณะรูดากิ (Rudaki Park) สถานที่พักผ่อนหย่อนใจของชาวดูชานเบ ยามค่ำคืนมีน้ำพุดนตรีแสดง และใกล้กันเป็นที่ตั้งของอาคารที่ทำการรัฐบาลแห่งใหม่
      นำท่านชม พิพิธภัณฑ์วัตถุโบราณ  (Museum of National Antiquities)  จัดเป็นพิพิธภัณฑ์ที่ดีที่สุดของประเทศ ภายในจัดแสดงเรื่องราวผ่านวัตถุทางประวัติศาสตร์ร่วมสมัย แต่สิ่งที่โดดเด่นที่สุดคือ องค์พระพุทธรูปนอนยาว 13 เมตรที่ได้มาจากเมืองอาจินาเทปเป 
      นำท่านชม ตลาดบาซ่าร์ (Dushanbe Bazaar) สำรวจสินค้าพืชผักผลไม้พื้นเมืองอันหลากหลาย
      กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน
      นำท่านเดินทางไปชม ป้อมปราการฮิสซ่าร์ (Hissar Fortess) ที่ตั้งตระหง่านอยู่บนเนินเขาสูง ป้อมกำแพงที่สูงราว 1 เมตรที่ถูกทำขึ้นมีช่องที่ใช้สำหรับสอดปลายกระบอกปืนใหญ่ บริเวณโดยรอบมีความสวยงามของสถาปัตยกรรมที่ก่อด้วยอิฐ สร้างในสมัยคริสต์ศตวรรษที่ 13 เพื่อใช้เป็นปราการป้องกันและเป็นโรงเรียนสอนศาสนา ต่อมาถูกทำลายลงโดยกองทัพแดงของโซเวียต รูปของป้อมแห่งนี้ จะมีปรากฏอยู่บนธนบัตรใบละ 20 ของประเทศทาจิกิสถาน
      ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ 
      เข้าสู่โรงแรมที่พัก HILTON HOTEL 5*, DUSHANBE หรือเทียบเท่า
  • Day 6
    ดูชานเบ - ทะเลสาบอิสคานเดอร์คูล - 7 Lakes - เพนจิเค้นท์ (B/L/D)
    • เช้า รับประทานอาหารเช้าในโรงแรม
      ออกเดินทางเพื่อไปชม ทะเลสาบอิสคานเดอร์คูล (Iskanderkul lake) 
      (มีระยะทางราว 135 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางราว 3 ชั่วโมง) ทะเลสาบนี้มีรูปร่างสามเหลี่ยม มีพื้นผิวน้ำกว่า 3.4 ตารางกิโลเมตรและลึกสุดที่ 75 เมตร เป็นทะเลสาบในภูเขาสูงที่มีต้นกำเนิดจากการละลายของธารน้ำแข็ง ตั้งอยู่ในระดับความสูง 2,195 เมตรบนไหล่เขาทางตอนเหนือของ Gissar range ส่วนหนึ่งของเทือกเขาฟานน์ ทะเลสาบแห่งนี้ได้ชื่อว่าเป็นทะเลสาบในเขตภูเขาที่สวยที่สุดในทาจิกิสถาน ชื่อของทะเลสาบมาจากกษัตริย์อเล็กซานเดอร์มหาราช คำว่า Iskander คือการออกเสียงภาษาเปอร์เซียของ Alexander และคำว่า Kul แปลว่าทะเลสาบในภาษาเติร์ก เป็นแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยมของทาจิกิสถาน สีทะเลสาบแห่งนี้จะเป็นสีน้ำทะเล-สีฟ้าคราม-มรกต-สีน้ำเงิน อย่างน่าอัศจรรย์ ท่านจะสามารถชื่นชมเห็นวิวทิวทัศน์ที่สวยงามของทะเลสาบได้อย่างเต็มตา มีคำกล่าวเปรยไว้ว่า หากมาที่ทาจิกิสถานแล้วไม่มาที่นี่ ถือว่ามาไม่ถึงทาจิกิสถาน
      กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน 
      บ่าย เดินทางต่อไปชมทะเลสาบเล็กๆที่มีความสวยงดงามสีน้ำเงินครามและสีมรกตทั้งหมด 7 แห่งที่อยู่ในเทือกเขาฟานน์ (Fann Mountains) รู้จักในชื่อว่า ทะเลสาบทั้งเจ็ด “7 Lakes” คือ Mizhgon, Soya, Hushyor, Nofin, Khurdak, Marguzor & Hazorchashma อิสระให้ท่านได้ชื่นชมวิวทิวทัศน์และเก็บภาพของทะเลสาบตามอัธยาศัย จากนั้นนำท่านเดินทางต่อไปยังเมืองเพนจิเค้นท์ อันเป็นจุดหมายปลายทางของวันนี้
      เดินทางถึง เมืองเพนจิเค้นท์  เคยเป็นเมืองศูนย์กลางหนึ่งของอาณาจักรซอคเดียน (Sogdian) ตรงบริเวณหุบเขาที่ราบลุ่มแม่น้ำซีรัฟชาน (Zeravshan River Valley) (อาณาจักรซอคเดียน คือ อาณาจักรเก่าแก่ของอิหร่านในช่วงยุค 600 ปีก่อนคริสตกาลจนถึงคริสต์ศตวรรษที่ 11 เป็นชนกลุ่มใหญ่ที่อาศัยอยู่ในแถบเอเชียกลางและนับถือศาสนาโซโรอัสเตอร์ ปัจจุบันคือบางส่วนของของคาซัคสถาน ทาจิกิสถานและอุซเบกิสถาน)  ที่นี่จึงเป็นเมืองท่องเที่ยวหลักของทาจิกิสถานอีกแห่งหนึ่งที่ต้องมาเยือนเพราะได้ค้นพบซากอารยธรรมของซอคเดียนและศาสนาโซโรอัสเตอร์
      ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ
      เข้าสู่โรงแรมที่พัก UMARIYON HOTEL 3*, PENJIKENT หรือเทียบเท่า
  • Day 7
    เพนจิเค้นท์ - ซามาร์คานด์ (B/L/D)
    • เช้า รับประทานอาหารเช้าในโรงแรม
      นำท่านชมเมืองเพนจิเค้นท์ที่เก่าแก่และเป็นเมืองหน้าด่านประตูสู่อุซเบกิสถาน พาชม พิพิธภัณฑ์รูดากิ (Rudaki Museum) เป็นพิพิธภัณฑ์สถานที่สร้างขึ้นครั้งแรกในปีค.ศ. 1958 ในโอกาสเฉลิมฉลองครบรอบ 1,100 ปีของนักกวีที่มีชื่อเสียงนามว่า อาบูอับดุลเลาะห์รูดากิ (Abu Abdullah Rudaki) เขาเกิดในปี
      ค.ศ. 858 ที่เพนจิเค้นท์ และเสียชีวิตลงในปีค.ศ. 941 เขาได้รับการยกย่องว่าเป็น “บิดาแห่งบทกวีเปอร์เซีย” เป็นอาคารชั้นเดียวที่มีการแบ่งโซนการจัดแสดงเป็น 8 โถงนิทรรศการที่น่าสนใจ ไม่ว่าจะเป็น โถงรูดากิ โถงธรรมชาติ โถงซารามซ์ โถงเพนจิเค้นท์โบราณ โถงสมัยโซมานิด โถงชาติพันธุ์วิทยา โถงอิสรภาพ และโถงวิถีชีวิตสมัยใหม่เป็นต้น ซึ่งท่านจะได้พบเห็นโบราณวัตถุต่างๆที่ขุดค้นพบจากเมืองโบราณทั้งสองแห่ง รวมถึงสิ่งทอและเครื่องแต่งกายในอดีต ภาพจิตรกรรมฝาผนังที่พบในเมืองเพนจิเค้นท์โบราณ และเครื่องมือยุคหินใหม่ในเมืองโบราณซารามซ์ เป็นต้น 
      จากนั้นนำท่านแวะชม มัสยิดเก่าแก่ของเพนจิเค้นท์ และพาเดินสำรวจชม ตลาดท้องถิ่น สัมผัสบรรยากาศกับคนท้องถิ่นชาวเมืองเพนจิเค้นท์
      กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน 
      บ่าย นำท่านชม เมืองโบราณซารามซ์ (Saramz Ancient City) ซากเมืองโบราณต้นแบบของสังคมเมือง มีอายุเก่าแก่กว่า 5,500 ปีที่เพิ่งขุดค้นพบในปีค.ศ.1975 องค์การยูเนสโก้ได้ขึ้นทะเบียนให้เป็นมรดกโลกในปีค.ศ. 2010
      เมื่อสมควรแก่เวลา นำท่านเดินทางต่อไปยังบริเวณเขตพรมแดนของทาจิกิสถาน-อุซเบกิสถาน ณ ด่านเพนจิเค้นท์ นำท่านผ่านพิธีการตรวจคนเข้าเมืองฝั่งของอุซเบกิสถานเรียบร้อยแล้ว เปลี่ยนรถพาหนะเป็นของฝั่งอุซเบกิสถาน แล้วเดินทางต่อไปยัง เมืองซามาร์คานด์ (จากเมืองเพนจิเค้นท์ถึงเมืองซามาร์คานด์ มีระยะทางราว 70 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1.5 ชั่วโมง) 
      ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ
      เข้าสู่โรงแรมที่พัก DILIMAH HOTEL 4*, SAMARKAND หรือเทียบเท่า
  • Day 8
    ซามาร์คานด์ - ทาชเค้นท์ (B/L/D)
    • เช้า รับประทานอาหารเช้าในโรงแรม
      นำท่านเที่ยวชม เมืองซามาร์คานด์ เมืองโบราณเก่าแก่อายุกว่า 2,500 ปี และเป็นเมืองใหญ่อันดับสองรองจากทาชเค้นท์ มีชื่อเรียกในอดีตว่า มาราคานดา (Marakanda) พระเจ้าอเล็กซานเดอร์มหาราชเคยได้นำกองทัพมายึด
      ครองเมืองนี้ และได้แต่งงานกับสาวพื้นเมืองนามว่า โรแซนา (Roxana) หลังจากนั้นเมืองได้เปลี่ยนมือไปอยู่ภายใต้กองทัพเติร์ก อาหรับ มองโกล และกษัตริย์ติมูร์เคยเลือกเมืองซามาร์คานด์ เป็นศูนย์กลางของจักรวรรดิติมูร์ 
      นำท่านชม เรจิสถาน (Registan Square) จัตุรัสกลางเมืองซามาร์คานด์ที่สวยงามสง่าตั้งแต่สมัยคริสต์ศตวรรษที่ 14 ใช้เป็นศูนย์กลางการค้าและช่างฝีมือที่งดงามด้วยศิลปะแบบอิสลาม กระเบื้องภายนอกตกแต่งด้วยสีฟ้าสดใสและดูโดดเด่น กลายเป็นสัญลักษณ์สำคัญของซามาร์คานด์ในปัจจุบัน โดยรอบจัตุรัสแห่งนี้มีโรงเรียนสอนศาสนา 3 แห่งตั้งอยู่รายล้อม คือ อุลุกเบก (Ulug Beg) เซียดอร์ (Shir Dor) และทิลยาคาริ (Tilys Kari)     
      จากนั้นชม Gur Amir ที่ฝังศพของหลานชายสุดที่รักของท่านติมูร์ (Timur) นามว่า Muhhamed Sultan สร้างในปีค.ศ.1404 หลังจากนั้นติมูร์เสียชีวิตลง ลูกชายของติมูร์เองได้ย้ายที่ฝังศพพ่อมาอยู่รวมกับหลานรัก ณ เวลานั้น ซึ่งสถานที่แห่งนี้ถูกเรียกว่า “Burial-vault of Timurids” ซึ่งภายในจะมีโลงศพหินอ่อน 7 โลงล้อมรอบโลงหินหยกเขียวซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของติมูร์ ส่วนโลงที่เป็นของจริงอยู่ในสุสานชั้นใต้ดิน ต่อมาในปีค.ศ.1941 นักสำรวจชาวโซเวียตได้เปิดโลงศพ จากการศึกษาโครงกระดูกพบว่าติมูร์มีความสูงถึง 170 เซนติเมตร ซึ่งถือว่าเป็นบุคคลที่มีความสูงมากในสมัยนั้น และพบว่าท่านพิการที่ขาขวา จึงเป็นที่มาของชื่อเทเมอร์เลน (Tamerlane) ซึ่งมาจาก Tamer the lame แปลได้ความว่า เทเมอร์(ติมูร์)ผู้ไม่สมประกอบ   
      กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน 
      บ่าย จากนั้นชม หอดูดาวอูลุกเบ็ก (Ulugbek Observatory) สร้างโดยข่าน Ulugbeg ในปีค.ศ.1428-1429 เป็นอาคาร 3 ชั้น สูง 30 เมตร ด้านบนยอดคล้ายโดม มีพิพิธภัณฑ์จัดแสดงเรื่องราวทางด้านดาราศาสตร์ สิ่งประดิษฐ์ เครื่องมือ เครื่องใช้ อุปกรณ์ดูดาว ซึ่งแสดงถึงอัจฉริยภาพทางดาราศาสตร์ของท่านข่านอูลุกเบ็กที่เคยคำนวณรอบปีเฉียดไปเพียงเล็กน้อยเท่านั้น หลังจากที่ข่านอูลุกเบ็กเสียชีวิตลง หอดูดาวได้รับความเสียหายจากขโมยและพวกคลั่งศาสนา แต่โชคดีที่ชั้นล่างไม่ถูกทำลาย ต่อมาได้รับการซ่อมแซมขึ้นมาใหม่  
      ต่อด้วยนำชม มัสยิดบีบี คานิม (Bibi-Khanum Mosque) สร้างโดยข่านติมูร์ โดยเริ่มสร้างตั้งแต่ปีค.ศ.1399-1404 ใช้เวลาก่อสร้าง 5 ปี โดยใช้ช่างฝีมือจากหลายประเทศ โดยตั้งใจจะสร้างให้เป็นมัสยิดที่ใหญ่ที่สุดในโลก เพื่อแสดงอำนาจที่สามารถพิชิตดินแดนในอินเดียได้ 
      ต่อด้วยนำท่านเดินสำรวจตลาดพื้นเมืองที่จำหน่ายสินค้าจำพวกถั่วต่างๆ ผลไม้สดนานาชนิดตามฤดูกาล ณ Siyab Bazaar เป็นตลาดพื้นเมืองที่มีชื่อเสียงอยู่คู่กับเมืองซามาร์คานด์
      นำท่านชม  ชาฮิซินดา คอมเพล็กซ์ (Shakhi-Zinda Complex) ซึ่งเป็นสถานที่รวบรวมสุสานขนาดใหญ่ตั้งอยู่บนเนินเขาอฟรอซิยาบ (Afrosiab) ซึ่งด้านนอกกำแพงเมืองเก่าเป็น Necropolis ตั้งแต่ศตวรรษที่ 11 และเป็นความคิดของข่านทาเมอร์เลนที่ต้องการให้สถานที่แห่งนี้เป็นศูนย์กลางสุสานของบุคคลที่มีชื่อเสียง มีอาคารหลายยุคหลายสมัยให้ศึกษา รวมทั้ง
      กระเบื้องเคลือบโบราณน่าสนใจอยู่มากมาย
      เมื่อได้เวลาสมควร นำท่านเดินทางสู่สถานีรถไฟ
      17.00 น. เดินทางสู่ เมืองทาชเค้นท์ ด้วยรถไฟความเร็วสูง “Afrosiyob” (1700-1910)
      ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ  
      เข้าสู่โรงแรมที่พัก INTERNATIONAL HOTEL 5*, TASHKENT หรือเทียบเท่า

  • Day 9
    ทาชเค้นท์ - กรุงเทพฯ (B/-/-)
    • เช้าตรู่ รับประทานอาหารเช้าในโรงแรม
      06.30 น. เดินทางถึงสนามบินนานาชาติทาชเค้นท์ เพื่อเตรียมตัวเดินทางกลับสู่ประเทศไทย
      09.20 น. เหินฟ้าสู่ กรุงเทพฯ โดยสายการบิน Uzbekistan Airways เที่ยวบิน HY533 (0920-2350)
       (ใช้เวลาบิน 6 ชั่วโมง)
      23.50 น. เดินทางถึงสนามบินสุวรรณภูมิโดยสวัสดิภาพ

Top